- เอบีบีขยายกลุ่มสินค้าสวิตช์เกียร์แรงดันต่ำ
- ด้วยการเปิดตัว NeoGear 4 โพลรุ่นใหม่ รวมถึงเวอร์ชั่น 690 V ในเร็วๆนี้
- ผสานความปลอดภัยที่ได้รับการยกระดับขึ้น ’ รวมกับความสามารถในด้านดิจิทัลที่ส่งเสริมอุตสาหกรรม 4.0 อย่างยั่งยืน
เอบีบีขยายกลุ่มสินค้าสวิตช์เกียร์แรงดันต่ำ รุ่น NeoGear ที่ได้รับการพัฒนาในด้านความปลอดภัย และประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แบบดิจิทัลได้ รวมถึงการติดตามสถานะและสุขภาพของอุปกรณ์แบบเรียบไทม์ และการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์
เอบีบีต่อยอดความสำเร็จของเทคโนโลยี NeoGear ด้วยการพัฒนา NeoGear เพิ่มเติมให้เป็นสวิตช์เกียร์แรงดันต่ำที่ปลอดภัยที่สุดในตลาดสำหรับผู้ปฏิบัติงานและวิศวกรซ่อมบำรุง การออกแบบที่พลิกโฉมใหม่นี้ทำให้ไม่ต้องสัมผัสกับส่วนที่มีไฟซึ่งเป็นอันตราย ใช้บัสบาร์น้อยลง 92 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับสวิตช์เกียร์แบบเดิมและการใช้จุดต่อไฟฟ้าน้อยลง 90 เปอร์เซ็นต์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความพร้อมใช้งานของสวิตช์เกียร์
ด้วยโซนที่ปลอดภัยจากการจุดอาร์คทำให้ผู้ซ่อมบำรุงได้รับความปลอดภัยมากขึ้นขณะที่ปฏิบัติงานซ่อมบำรุงตามปกติ และยังลดความเสี่ยงของการอาร์คที่เกิดจากความขัดข้องเชิงกล ซึ่งเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่รุนแรงที่สุดที่ผู้ปฏิบัติงานกับสวิตช์เกียร์ต้องเผชิญ
สวิตช์เกียร์ NeoGear ปัจจุบันออกจำหน่ายทั่วโลกแล้ว สามารถประหยัดพื้นที่ได้สูงสุด 25 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีสวิตช์เกียร์ในระดับเทียบเท่ากัน การใช้พื้นที่น้อยนี้ทำให้ประสิทธิภาพด้านพลังงานเพิ่มขึ้นสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์เนื่องจากการสูญเสียความร้อนที่ลดลง NeoGear เวอร์ชั่น 4 โพลที่เปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ และเวอร์ชั่น 690 V ที่กำลังจะมา ทำให้ NeoGear เป็นโซลูชั่นที่น่าสนใจมากสำหรับกลุ่มตลาดและอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ทั้งสาธารณูปโภค อาหารและเครื่องดื่ม และโครงสร้างพื้นฐาน NeoGear ยังมีความเหมาะสมกับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมเบาที่มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุดและความน่าเชื่อถือนั้นเป็นสิ่งจำเป็น และการประหยัดพื้นที่รวมถึงน้ำหนักที่ลดลงของสวิตช์เกียร์คือหัวใจสำคัญ
เช่นเดียวกันความปลอดภัยที่พัฒนาเพิ่มขึ้น การรับรองในด้านความยั่งยืนอยู่ในระดับชั้นนำ รวมถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่า โซลูชั่นที่ได้รับการปรับปรุงต่อยอดจากแพลตฟอร์ม NeoGear ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว พร้อมด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อล่าสุดสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลและการสื่อสารข้อมูล ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นตัวเลือกสวิตช์เกียร์แรงดันต่ำที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับอาคารและโรงงานที่กำลังมุ่งสู่มาตรฐานอุตสาหกรรม 4.0 ความสามารถในด้านดิจิทัลช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานโดยรวมได้สูงสุดถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการติดตามตรวจสอบสภาพ (Condition Monitoring) ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญสู่การพัฒนาสวิตช์เกียร์ที่ยั่งยืน
Ronald van Leeuwen, Global Product Manager NeoGear, เอบีบี อิเล็กทริฟิเคชั่นอธิบายว่า “อุตสาหกรรมต่างๆกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนตลาด เช่น การนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ ความปลอดภัย และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราต้องพัฒนาเช่นกันทั้งนี้ก็เพื่อให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าของเราได้อย่างต่อเนื่อง”
“ความมุ่งมั่นของเราในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้แสดงให้เห็นผ่านความก้าวหน้าของสวิตช์เกียร์แรงดันต่ำ NeoGear ของเรา ความปลอดภัยในการดำเนินงานที่ดีขึ้น ความยั่งยืน และฟังก์ชั่นการทำงานแบบอัจฉริยะแบบบูรณาการทำให้ NeoGear สามารถเข้ากันได้กับกลยุทธ์การนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้”
ความสามารถด้านดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นของ NeoGear ประกอบด้วยการติดตามสถานะและสุขภาพของอุปกรณ์แบบเรียลไทม์ และการซ่อมบำรุงเชิงคาดการณ์ ความช่วยเหลือจากระยะไกล การวินิจฉัยข้อผิดพลาดและโซลูชั่น และการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 และนอกจากนี้ยังมี ABB AbilityTM Condition Monitoring for Electrical System (CMES) ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้สูงสุดถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และได้รับประโยชน์จากความยืดหยุ่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในการดำเนินงานของลูกค้า
Divesh Ramasur วิศวกรไฟฟ้าอาวุโสจาก Sasol Mining South Africa กล่าวว่า “สิ่งสำคัญประการแรกของเราคือความปลอดภัยของพนักงานเรา ดังนั้นการหาโซลูชั่นที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยในระดับสูงจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก NeoGear ศูนย์ควบคุมมอเตอร์ (MCC) ชุดแรกของเราถูกติดตั้งในพื้นที่ห่างไกลของการทำเหมืองของเรา อยู่ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงและเต็มไปด้วยฝุ่น แต่ด้วยเทคโนโลยีบัสบาร์ลามิเนตของ NeoGear ที่ถูกต้องตามมาตรฐาน IEC ซึ่งถูกจัดให้เป็นโซนที่ปลอดภัยจากการเกิดอาร์ค เราได้เห็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในเรื่องของการลดโอกาสการเกิดความเสียหายต่อการติดตั้งที่เกิดจากการอาร์คภายใน เหตุการณ์การเกิดอาร์คทำให้พนักงานและระบบของเราอยู่ภายใต้ความเสี่ยง”
เอบีบีภูมิใจที่ได้สร้างแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่น แบบโมดูลาร์ และสามารถปรับขนาดได้อย่างเหมาะสมตามงบประมาณการลงทุนในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลขององค์กร ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีแบบ Withdrawable หรือ Plug-in ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ส่วนประกอบและอุปกรณ์ต่างๆที่สามารถปรับเปลี่ยนหรืออัปเกรดได้ง่าย และสามารถปรับเพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่ในการติดตั้งที่มีอยู่ได้ไม่ยาก
ABB (ABBN: SIX Swiss Ex) เป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของสังคมและอุตสาหกรรมเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่มีประสิทธิผลและมีความยั่งยืนมากขึ้น เอบีบีได้ทุ่มเทพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างเต็มกำลังเพื่อยกระดับประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นด้วยซอฟต์แวร์ที่สามารถเชื่อมโยงเข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆของ Electrification, Robotics, Automation และ Motion เอบีบีมีประวัติศาสตร์ที่สีบสานความเป็นเลิศมาอย่างยาวนานกว่า 130 ปี ความสำเร็จต่างๆล้วนเกิดจากพนักงานที่มีความสามารถกว่า 105,000 คนที่ปฏิบัติงานอยู่ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก www.abb.com
ABB’s Electrification Business Area เป็นผู้นำระดับโลกในด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชันระบบไฟฟ้า โดยดำเนินธุรกิจในกว่า 100 ประเทศ มีฐานการผลิตมากกว่า 200 แห่ง พนักงานกว่า 50,000 คนของเราต่างมุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตผู้คนให้ดีขึ้น และทำงานร่วมกันเพื่อนำเสนอโซลูชั่นในด้านระบบไฟฟ้าที่ปลอดภัย อัจฉริยะ และยั่งยืน เรากำลังสร้างเทรนด์แห่งอนาคตของการใช้พลังงานไฟฟ้า สร้างความแตกต่างผ่าทางเทคโนโลยีและการคิดค้นนวัตกรรมดิจิทัล โดยส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมผ่านความเป็นเลิศในการดำเนินงานให้แก่ลูกค้าของเราในกลุ่มสาธารณูปโภค กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ กลุ่มอาคาร รวมถึงกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน และภาคการขนส่ง go.abb/electrification