1. การเปลี่ยนแปลงข้อมูล “รูปแบบกายภาพ” เป็น “รูปแบบดิจิทัล” (Digitization)
เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการระบาดของโรคที่ผ่านมา เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างคนทำงานและเทคโนโลยีไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในทางการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน หรือการสื่อสารกับอุปกรณ์หรือกระบวนการต่างๆแบบระยะไกล ทำให้ผู้คนสามารถรับมือกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบการทำงานในรูปแบบดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นทักษะใหม่ที่ช่วยให้คนทำงานเรียนรู้และตอบสนองต่อเทคโนโลยีใหม่ๆได้ง่ายขึ้น
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือการตระหนักถึงนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดการพลิกผัน (Disruptive innovations) หรือเทคโนโลยีที่จะมาแทนที่สิ่งที่มีอยู่เดิม ซึ่งกำลังสร้างโอกาสใหม่ๆสำหรับคนทำงานเช่นเดียวกัน
หนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ 3D-printing หรือเครื่องพิมพ์แบบ 3 มิติ ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการขยายขอบเขตการผลิตวัตถุต่างๆ เครื่องพิมพ์ 3 มิติ รวมถึงเครื่องพิมพ์ที่ทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ได้ กำลังถูกนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่ร้านค้าปลีก ไปจนถึงการออกแบบงานสถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง สำหรับกลุ่มคนทำงานที่คาดหวัง การเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้งานระบบนี้เป็นโอกาสในต่อยอดการเรียนรู้ทักษะใหม่อีกมากมาย ตั้งแต่การเขียนโปรแกรมไปจนถึงทักษะทางด้านธุรกิจที่จำเป็นในการทำการตลาดและการขายผลิตภัณฑ์นั้น บทบาทหน้าที่ในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการพิมพ์ 3 มิติเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของโอกาสในการทำงาน ที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
การใช้งานหุ่นยนต์ภายในโรงงาน ยังช่วยสร้างโอกาสให้คนทำงานในปัจจุบันสามารถเพิ่มทักษะ และช่วยให้พวกเขาย้ายจากงานในรูปแบบเดิม เช่น การป้อนวัตถุหรือหยิบวัตถุออกจากเครื่องจักร ไปสู่ตำแหน่งงานที่มีความท้าทายมากยิ่งขึ้น ที่เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม การควบคุมดูแล หรือการบำรุงรักษาอุปกรณ์หรือหุ่นยนต์ ยกตัวอย่างเช่น การนำหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ Autonomous Mobile Robots เข้ามาใช้ในการผลิตหรือจัดจำหน่าย ช่วยให้พนักงานไม่ต้องดูแลการย้ายชิ้นงานหรือสินค้าระหว่างส่วนการผลิตต่างๆ และให้พนักงานได้ไปทำงานในส่วนที่มีประโยชน์มากกว่าเช่น การเขียนโปรแกรม หรือการบำรุงรักษาหุ่นยนต์
2. การเพิ่มขึ้นของ AI
เนื่องด้วยเทคโนโลยีด้านระบบอัตโนมัติเริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น รูปแบบในการทำงานก็เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้าน AI ที่ส่งผลต่องานหลายๆส่วน ที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบไปสู่การทำงานแบบอัตโนมัติ เนื่องจากองค์กรต่างๆกำลังเฟ้นหาวิธีการในการเพิ่มกำลังและประสิทธิภาพในการผลิต รวมไปถึงการยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าด้วย
ความสำเร็จของทักษะงานในอนาคตจะถูกวัดบนความสามารถเฉพาะบุคคลในการสร้างประโยชน์จากการใช้งาน AI ได้สูงสุด หรือการเรียนรู้ว่าจะสร้างประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนด้วย AI ได้จากที่ไหนและอย่างไร
จะเห็นได้ว่า งานที่มีการใช้ระบบอัตโนมัติมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการนำระบบอัตโนมัติเข้าไปใช้งานเพื่อปฏิบัติงานที่หลากหลายได้มากขึ้น ซึ่งงานที่มักจะนำระบบอัตโนมัติเข้าไปใช้ มีทั้งงานประเภทการป้อนหรือนำชิ้นงานออกจากเครื่องจักร ซึ่งทำให้พนักงานสามารถดูแลรับผิดชอบงานอื่นๆเช่น การควบคุมดูแลระบบ หรือ การเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ ซึ่งเป็นงานที่อาจจะไม่เคยมีอยู่ในการรับผิดชอบของพวกเขามาก่อน เช่นเดียวกันกับ พนักงานในคลังสินค้า การใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติในการจัดการกับส่วนงานที่ใช้แรงงาน เช่นการจัดประเภทสินค้า การหยิบจับหรือยกสินค้า ซึ่งทำให้พนักงานสามารถจัดการกับงานที่สำคัญอื่นๆ เช่น การจัดการสต๊อกสินค้า หรือการควบคุมดูแลเครื่องยนต์ได้
3. ความต้องการของลูกค้า
ลูกค้าในปัจจุบันมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ทั้งการขนส่งที่รวดเร็วขึ้น และทางเลือกที่มากขึ้น รวมไปถึงความต้องการสินค้าเฉพาะบุคคล ผู้ผลิตจึงจำเป็นต้องปรับใช้เทคโนโลยี ระบบการผลิต และระบบการจัดการการสั่งซื้อ ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อทำให้ลูกค้ามีความสุขและเติมเต็มความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
การที่จะทำสิ่งเหล่านี้ได้ ระบบการผลิตและจำหน่ายจำเป็นที่จะต้องมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น ทั้งระบบอัตโนมัติในโรงงานผลิตและระบบการจัดการคลังสินค้า เพื่อช่วยในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลในทุกๆส่วน
ปัจจัยต่างๆ เช่น การเร่งการเติบโตในส่วนอีคอมเมิร์ซ และการเพิ่มขึ้นของช่องทางนำออกสู่ตลาด เช่น การกระจายสินค้าในทุกช่องทาง (Omnichannel distribution) และการจัดการคำสั่งซื้อที่ยืดหยุ่น ประกอบกับความจำเป็นที่บริษัทจะต้องเพิ่มความสามารถในการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเกิดโรคระบาดในอนาคต ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้ กำลังพบได้มากขึ้นในการใช้งานระบบอัตโนมัติ ทั่งในส่วนการผลิตและภาคโลจิสติกส์
หลักฐานจากอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แสดงให้เห็นตรงกันข้ามกับข้อมูลและความเข้าใจก่อนหน้าที่ว่า หุ่นยนต์จะเป็นภัยคุกคามต่ออาชีพ เพราะหลายๆธุรกิจ กำลังเฟ้นหาระบบอัตโนมัติ เช่น หุ่นยนต์โคบอท เพื่อช่วยให้เสริมให้บุคลากรในองค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การนำหุ่นยนต์และเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติอื่นๆ มาใช้เพิ่มมากขึ้น ที่ช่วยให้มนุษย์ทำงานร่วมกับเครื่องจักรได้จะช่วยเพิ่มอัตราการเปิดรับบุคลากรสำหรับระบบอัตโนมัติ ซึ่งทำให้มีความสำคัญต่อพนักงานในอนาคตที่จะต้องมีทักษะที่จำเป็นในการทำงานเพิ่มมากขึ้น
4. การขาดแคลนทักษะ
ภาคการผลิตทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนทักษะที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจและมาตรฐานการครองชีพในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ปัจจัยต่างๆ รวมทั้งประชากรสูงวัยและความต้องการทำงานในส่วนการผลิตและวิศวกรรมของคนวัยหนุ่มสาวที่ลดลง กำลังทำให้หลายประเทศต้องเผชิญกับปัญหาที่เพิ่มขึ้นเมื่อต้องการจ้างงานในตำแหน่งงานหลักๆ ซึ่งปัญหาเหล่านี้กำลังขยายใหญ่ขึ้นในทุกๆปี เพราะกลุ่มคนทำงานที่มีประสบการณ์ หรือคนทำงานที่มีอายุมาก เริ่มลาออกจากงานหรือเกษียณเร็วกว่าที่องค์กรจะสามารถหาคนมาแทนที่ได้
อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการจัดหาแรงงานในภาคการผลิตและวิศวกรรมคือ ภาพลักษณ์ที่ไม่ดีและการขาดการรับรู้เกี่ยวกับโอกาสทางอาชีพที่บริษัทอุตสาหกรรมสามารถเสนอให้ได้ การรับรู้ในเชิงลบและล้าสมัยเกี่ยวกับภาคส่วนนี้ ส่งผลให้เยาวชนที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีพลาดเทคโนโลยีใหม่ๆที่น่าสนใจ ซึ่งมีการใช้งานมากขึ้นในงานอุตสาหกรรม ตั้งแต่เซ็นเซอร์อัจฉริยะและหุ่นยนต์เคลื่อนที่ไปจนถึงระบบการจัดการการผลิตอัจฉริยะ
5. ความไม่แน่นอน
ผลกระทบโดยรวมจากปัจจัยต่างๆ เช่น การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ข้อพิพาททางการค้า การขาดแคลนส่วนประกอบ ความไม่แน่นอนทางการเมือง และการเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อให้เป็นไปตามกำหนดเวลาของรัฐบาลในการยุติการขายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้น ไม่ว่าจะในด้านการผลิต การจัดจำหน่าย หรือการค้าปลีก ส่งผลให้บริษัทต่างๆ พยายามหาวิธีที่จะทำให้การดำเนินงานของพวกเขามีความยืดหยุ่นมากขึ้นกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
การตระหนักรู้และเข้าใจถึงความจำเป็นในการมีความยืดหยุ่นขึ้น คือการมองเห็นการลงทุนในเทคโนโลยีอัตโนมัติที่เพิ่มขึ้นในภาคการผลิตและการขนส่ง ในทั้งสองภาคส่วนนี้ ความยืดหยุ่นโดยธรรมชาติของหุ่นยนต์ คือ การที่หุ่นยนต์เริ่มถูกนำมาใช้ในลักษณะงานที่หลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อช่วยป้องกันเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น คำสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้นอย่างกะทันหัน หรือความจำเป็นในการสลับผลิตภัณฑ์รุ่นต่างๆ ในระยะเวลาอันสั้น