Network analyzer M4M เป็นมิเตอร์ที่ช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานของอาคารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามรายงานสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมโลกขององค์การสหประชาชาติเมื่อปี 2017 อาคารที่พักอาศัยและอาคารพาณิชย์ ใช้พลังงานมากถึง 30% ของปริมาณการใช้พลังงานรวมของโลก และนับเป็น 29% ของต้นเหตุการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงาน แม้ตัวเลขนี้จะดูน่าหวาดหวั่นเพียงใด แต่ในรายงานก็ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า “ความเข้มข้นในการใช้พลังงานในภาคส่วนอาคารสิ่งก่อสร้าง (ในแง่ของการใช้พลังงานต่อตารางเมตร) มีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอัตราเฉลี่ยราว 1.5% ทุกปี”
ซึ่งในปัจจุบันนี้อาคารมีความชาญฉลาดกว่าแต่ก่อน มีการเชื่อมโยงอุปกรณ์ควบคุมและการเฝ้าเก็บข้อมูลการใช้พลังงานเข้าด้วยกัน และได้ยกระดับประสิทธิภาพไปสู่ขั้นที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลยก่อนยุค IoT ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อถึงกัน เช่น มิเตอร์ M4M รุ่นใหม่ล่าสุดของ ABB ช่วยให้สามารถติดตามเก็บ ข้อมูลการใช้ไฟแบบนาทีต่อนาทีได้อย่างแม่นยำ และทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการใช้พลังงานของอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปในตัว
การติดตามเก็บข้อมูลแบบนาทีต่อนาที
มิเตอร์กลุ่มแรกๆ ของ ABB ที่ใช้เทคโนโลยีของ ABB Ability™ และมีบลูทูธในตัวจากตระกูลมิเตอร์ M4M สามารถวิเคราะห์คุณภาพ การใช้ไฟฟ้า และติดตามเก็บข้อมูล รวมถึงประสิทธิภาพของการใช้ไฟได้อย่างแม่นยำ สามารถใช้งานได้ทั้งอาคารโรงงานและอาคารพาณิชย์ รวมถึงศูนย์ข้อมูลได้เช่นกัน
ในการใช้งานด้านอาคารพาณิชย์ การติดตั้งอุปกรณ์ใหม่เพิ่มเข้าสู่ระบบดิจิตอล โดยผลิตภัณฑ์มิเตอร์ M4M ของเอบีบีจะช่วยติดตาม และจัดการอุปกรณ์รวมถึงการใช้พลังงาน ทำให้สามารถติดตามเก็บข้อมูลค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าและการใช้ไฟได้แบบนาทีต่อนาที และนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องจ่ายค่าไฟในช่วงที่อัตราค่าไฟสูง
การใช้งานในอาคารโรงงานอุตสาหกรรม มิเตอร์ M4M มีฟังก์ชั่นในการช่วยติดตาม และช่วยให้เก็บข้อมูลได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสามารถควบคุมการใช้ไฟจากโครงข่าย เพื่อหลีกเลี่ยงไฟตก ซึ่งจะก่อความเสียหายที่จะเกิดกับอุปกรณ์ และการหยุดชะงักของงานสำคัญต่างๆ โดยการแจ้งเตือนที่ผู้ใช้สามารถตั้งค่าเองได้ ซึ่งจะช่วยให้ตอบสนองต่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ในระบบจ่ายไฟ รวมถึงช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น และการซ่อมบำรุงเป็นไปอย่างรวดเร็ว
คุณสมบัติอีกด้านที่ทำให้มิเตอร์ M4M เหมาะแก่การใช้งานในศูนย์ข้อมูล (Data Center) คือช่วยให้เกิดการส่งจ่ายไฟอย่างมีเสถียรภาพ ด้วยการเฝ้าติดตามเก็บข้อมูลค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า รวมท้ังป้องกันการใช้ไฟเกินจนถูกตัดไฟ ซึ่งอาจส่งผลทำให้ต้องหยุดเดินเครื่อง ดังน้ัน Network analyzer รุ่น M4M จึงตอบโจทย์ต่อความต้องการทุกด้านของลูกค้า ตั้งแต่รูปลักษณ์ ฟังก์ชั่น จนถึงการติดตั้ง และการตั้งค่าระบบ รวมทั้งการใช้งานและบำรุงรักษาอีกด้วย

การใช้งานที่คล้ายคลึงกันของมิเตอร์ M4M 20 และ M4M 30 ทั้งออปชั่น I/O และหน้าจอแสดงผล
มิเตอร์ M4M มีจำหน่ายใน 2 รุ่นด้วยกัน คือรุ่น M4M 20 ซึ่งมาพร้อมจอแสดงผล สีกราฟิก และคีย์บอร์ด 5 ปุ่ม และรุ่น M4M 30 ซึ่งมีจอแสดงผลสีแบบสัมผัสซึ่งจะช่วยให้แสดงข้อมูลพลังงานได้อย่างสะดวกตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานไปจนถึงข้อมูลการวิเคราะห์ค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าเต็มรูปแบบ รวมทั้งผลการคำนวณประสิทธิภาพในการใช้ไฟ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ลูกค้าจะใช้เวลาน้อยลงในการเรียนรู้การใช้งาน ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ยังรวมถึงโปรแกรมการสื่อสารและ I/O ชนิดเต็มรูปแบบในทั้ง 2 รุ่น โดยใช้วิธีการติดตั้งและเดินสายแบบเดียวกัน รวมถึงมีหน้าจอแสดงผลเหมือนกัน ซึ่งจอแสดงผลของท้ัง 2 รุ่นได้ออกแบบ ให้ใช้งานง่าย ตั้งแต่การตั้งเนื้อหาเมนู ชื่อ และลำดับของเมนู ซึ่งจะทำให้การใช้งานอุปกรณ์นี้เป็นไปอย่างสะดวก ซึ่งข้อแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นคือเมนูในจอแสดงผลของ M4M 30 แบ่งเป็น 4 หมวด ส่วน M4M 20 มี 3 หมวด
ท่องไปในโลกแห่งข้อมูล
แน่นอนว่าการอ่านข้อมูลเป็นส่วนสำคัญของจอแสดงผลในทุกๆ เครื่องมือวัด เพราะจะช่วยให้ผู้ใช้งานอ่านค่าสูงสุด ค่าต่ำสุด รวมถึงค่าเฉลี่ยของตัวแปรต่างๆ เช่น แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า กำลังไฟฟ้าได้ชนิดนาทีต่อนาที รวมทั้งค่าพารามิเตอร์แสดงคุณภาพ
มิเตอร์ M4M 30 สามารถแสดงค่าพารามิเตอร์หลักย้อนหลังได้ ด้วยการเก็บในหน่วยความจำขนาด 7 เมกกะไบท์ ซึ่งทำให้สามารถ เก็บค่าเฉลี่ยของข้อมูลสำคัญ ณ เวลาน้ันๆ ได้ตลอดช่วงเวลาที่กำหนด รวมถึงเก็บค่าสูงสุดและต่ำสุดได้อย่างละ 3 ค่า ภายในช่วงเวลาที่ระบุไว้ได้มากถึง 25 ช่องสัญญาณ โดยกราฟแสดงการใช้ไฟ ณ เวลาใดๆ หรือแนวโน้มการใช้ไฟ แสดงให้เห็นปริมาณการใช้พลังงาน สำหรับพารามิเตอร์ 20 ค่า ภายในช่วงเวลาที่กำหนด โดยแต่ละกราฟแสดงค่า 12 ค่าล่าสุด ที่เก็บไว้
การตั้งค่ามิเตอร์ทำได้สะดวกรวดเร็วด้วยการมีค่าเริ่มต้นไว้แล้วจำนวนหนึ่ง และการใส่ค่าที่เข้าใจง่าย โดยจะมีรายการขึ้นมาให้ลูกค้าเลือก มีการรับประกันความปลอดภัยโดยการใส่รหัสผ่านที่ผู้ใช้งานสามารถตั้งเองได้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาเปลี่ยนแปลงค่า ซึ่งการบันทึกการตั้งค่าจะถูกเก็บไว้ในเครื่องวัด และจะบันทึกเวลาทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ นอกจากนั้นโปรแกรมผู้ช่วยการตั้งค่า ซึ่งจะแนะนำผู้ใช้งานในช่วงของการตั้งค่าพื้นฐานของเครื่อง เช่น ครั้งแรกที่มีการเปิดใช้งานเครื่อง หรือเมื่อทำการเรียกคืนค่าจากโรงงาน โดยสามารถตั้งให้มีการแจ้งเตือนได้ โดยจะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ การเตือนภัย การแจ้งเตือน และข้อผิดพลาด การเตือนภัยจะเกิดเมื่อค่าเกินกว่าระดับปลอดภัยที่ตั้งไว้ และจะถูกบันทึกไว้ในฐานข้อมูลและแจ้งเตือนไปที่หน้าจอ
M4M 30 สามารถจัดการการเตือนภัยได้อย่างละเอียด ช่วยให้สามารถรวมการเตือนภัยที่ไม่ร้ายแรงเข้าไว้ด้วยกัน การแจ้งเตือนจะใช้เมื่อติดตั้งระบบ ขณะที่ข้อผิดพลาดจะถูกเก็บไว้ในเครื่องเพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ข้อผิดพลาดของตัวเครื่องเอง

ข้อมูลที่มองเห็นได้เด่นชัด
โปรแกรมควบคุมจอแสดงผลของมิเตอร์ M4M ใช้ชุดคำสั่งกราฟิก ฝังตัวขั้นสูงร่วมกับรูปแบบเส้นกราฟิกที่สวยงามที่เข้ากันได้อย่างลงตัวกับหน้าจอสี 3.5 นิ้ว ขนาด 320 x 240 Pixel (QVGA) ซึ่งรองรับสีถึง 65K ผลก็คือความคมชัดของค่า ณ เวลานั้นๆ แนวโน้ม รูปไอคอน กราฟ 2 มิติ ในทุกสภาพแสง
การจัดการจอแสดงผลของมิเตอร์ M4M จะมีชิพควบคุมภายในของตัวเอง ซึ่งรองรับการใช้งานในภาษากลุ่มละติน ยุโรป อักษรซีริลลิก และชุดอักษร UNICODE แบบพื้นฐาน ช่วยให้สามารถแสดงเมนูในภาษาถิ่นได้อย่างหลากหลาย แม้แต่ภาษาจีน แบบพื้นฐาน
เฝ้าระวังการใช้พลังงานได้จากทุกหนแห่ง
มิเตอร์ M4M ติดตั้งมาพร้อมโปรโตคอลสื่อสาร (ระหว่างหน่วยย่อยในเครื่อง) ชนิดล่าสุด Modbus, BACnet/IP และ Profibus DP-V0 ซึ่งใช้ในการทำงานหลักสำหรับวิเคราะห์คุณภาพการใช้ไฟ ด้วยช่องทางสื่อสารสำหรับผู้ใช้งานที่หลากหลายทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทางไกล และรวมข้อมูลเหล่านั้นเข้าสู่ฐานข้อมูล DMS, BMS, SCADA หรือฐานข้อมูลบนคลาวด์
ด้วยการใช้โปรโตคอล BACnet ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับอาคารอัตโนมัติโดยเฉพาะ ทำให้มั่นใจได้ว่า มิเตอร์ M4M จะทำงานเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่นๆ ในอาคาร โดยการใช้โปรโตคอล BACnet ซึ่งมีกฎชัดเจนในการสื่อสารระหว่างเครื่อง การออกแบบเช่นนี้ได้มาตรฐานตามศูนย์ทดสอบ BACnet Testing Laboratories (BTL) เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปแน่นอน และเมื่อมองในแง่ของการเลือกใช้ระบบอัตโนมัติทางด้านอุตสาหกรรม อุปกรณ์มิเตอร์ M4M สามารถใช้การสื่อสารภายในด้วย Profibus ซึ่งถือว่าสมบูรณ์แบบมาก เพราะช่วยให้การบูรณาการสื่อสารกับโครงข่ายสื่อสารแบบเรียลไทม์ที่มีแม่ข่ายหลายชุดเป็นไปอย่างราบรื่น
มิเตอร์ M4M ทุกรุ่นมีบลูทูธแบบใช้พลังงานต่ำ (Bluetooth Low Energy เวอร์ชัน 4.2) ในตัว ช่วยให้สามารถสื่อสารแบบไร้สายกับแอปพลิเคชัน EPiC บนโทรศัพท์มือถือได้ (มีให้เลือกทั้งระบบ Android และ iOS) ซึ่งแอปฯ EPiC ช่วยให้สามารถตั้งค่ามิเตอร์ M4M ได้อย่างสะดวก โดยเมื่อมีการติดตั้งมิเตอร์จำนวนมากเข้าในระบบ แอปฯ นี้จะช่วยให้ตั้งค่าได้อย่างรวดเร็วโดยการบันทึกค่าที่ตั้งไว้แล้วใช้กับเครื่องอื่นๆ
การสื่อสารระหว่างมิเตอร์ M4M และแอปฯ EPiC สามารถใช้การเข้ารหัสเพื่อปกป้องข้อมูล ทั้งในขณะที่ส่งข้อมูล และเพื่อพิสูจน์ตัวตนเฉพาะเครื่องที่ได้รับอนุญาต ในขณะเดียวกันก็เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยทางระบบคอมพิวเตอร์เครือข่ายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแทรกแซงข้อมูล

ขยายได้ไม่จำกัด
ABB มุ่งเน้นการให้บริการอย่างครบวงจรตั้งแต่มิเตอร์ M4M ไปจนถึงการเชื่อมโยงกับศูนย์ข้อมูล ABB Ability™ Electrical Distribution Control System (EDCS) ซึ่งเป็นระบบเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลบนคลาวด์ของ ABB
เมื่อใส่รหัสให้มิเตอร์ M4M และเชื่อมต่อกับศูนย์ EDCS ได้แล้ว ศูนย์จะทำการจำแนกรุ่นเครื่องที่ติดต้ัง และอ่านค่าในระบบเพื่อทำการเชื่อมต่อได้อย่างไม่มีสะดุด เมื่อมิเตอร์ M4M เชื่อมต่อกับ ศูนย์ ABB Ability™ EDCS ได้แล้ว ลูกค้าจะไม่เพียงเรียกอ่านข้อมูลการใช้ไฟทั้งหมดของตัวเองได้เท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าระบบได้อีกด้วย และลูกค้ายังสามารถเลือกตั้งค่ามิเตอร์ M4M จากทางไกลโดยใช้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ Ekip Connect ซึ่งจะช่วยให้สามารถปรับรุ่นเฟิร์มแวร์ที่ใช้ควบคุมเครื่องได้โดยเข้าไปที่เซิร์ฟเวอร์ของ ABB และเลือกรุ่นเฟิร์มแวร์ที่ต้องการ ซึ่งจะมีการเข้ารหัสอยู่เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้โปรแกรมของแท้มาติดตั้ง
สายการผลิตแบบอัตโนมัติ
มิเตอร์ M4M มีการประกอบและทดสอบอุปกรณ์ในสายการผลิตอัตโนมัติความเร็วสูง ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงที่มาของชื้นส่วนทุกชื้นได้อย่างราบรื่น รวมทั้งมีผลการทดสอบตั้งแต่โรงงานผลิต ไปจนถึงเส้นทางไปจนบรรจุกล่องและเข้าโรงเก็บ โดยหุ่นยนต์หยิบจับซึ่งควบคุมโดยคอมพิวเตอร์กลางจะค่อยๆ เลื่อนตัวเครื่องจากสถานีทดสอบหนึ่งไปยังสถานีต่อไปอย่างนุ่มนวลจนผ่านการทดสอบทุกแบบอย่างครบถ้วน
โดยแหล่งจ่ายกระแสไฟและแรงดันที่แม่นยำคอยจ่ายไฟให้สถานีทดสอบ ทำให้มั่นใจได้ว่ามิเตอร์ M4M ทุกเครื่องจะผ่านการตรวจสอบด้วยคุณภาพสัญญาณที่ดีที่สุด และด้วยการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวดจึงทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตรวจสอบอย่างดีเยี่ยมแล้วเท่านั้นจะผ่านไปถึงมือลูกค้า