แนวคิดการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบ Solid-State แทนที่การใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบ Electromechanical ในปัจจุบัน โดยใช้เซมิคอนดักเตอร์ (semiconductor) และอัลกอริธึมซอฟต์แวร์ขั้นสูงที่ควบคุมกำลังและสามารถตัดการไหลของกระแสไฟฟ้าที่รุนแรงได้เร็วกว่าที่เคย
หากเปรียบเทียบเวลาที่ใช้ในการตัดวงจรไฟฟ้าที่มีขนาดกระแสเท่ากัน เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบ Solid-State ใช้เวลาในการตัดวงจรไฟฟ้าในระดับไมโครวินาที (microseconds) ในขณะที่เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร (Current Fault) ในขณะที่ เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบ Electromechanical ใช้เวลาในการตัดวงจรไฟฟ้าระดับมิลลิวินาที (milliseconds) ซึ่งเซอร์กิตเบรกเกอร์แบบ Solid-State ของ ABB สามารถตรวจับและตัดวงจรไฟฟ้าขณะเกิดกระแสลัดวงจรได้รวดเร็วกว่าเซอร์กิตเบรกเกอร์ในปัจจุบันถึง 100 เท่า
ระบบจัดเก็บพลังงาน (Energy Storage System) และโครงข่ายให้บริการไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากการหยุดทำงานในกรณีที่เกิดการขัดข้องขึ้นในระบบไฟฟ้า (Internal Fault) ซึ่งการตัดวงจรอย่างรวดเร็วในส่วนที่ระบบไฟฟ้ามีการขัดข้องจะสามารถช่วยป้องกันการหยุดการทำงานของระบบไฟฟ้าโดยรวมได้ และเนื่องจากไม่มีพลังงานไฟฟ้าถูกปล่อยออกมาในช่วงระหว่างการตัดกระแสไฟฟ้า ทำให้โอกาสที่จะเกิดประกายไฟ (arc flash) ที่อันตรายจึงลดลงจนเกือบเป็นศูนย์
ประสิทธิภาพการใช้พลังงานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการติดตั้งระบบไฟฟ้าทั้งหมด รวมถึงการใช้งานโครงข่ายไฟฟ้าที่แยกตัวเป็นอิสระจากโครงข่ายหลัก เช่น เรือที่มีโครงข่ายไฟฟ้ากระแสตรงติดตั้งในเรือ เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์อื่นๆ แล้ว เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบ Solid-State ของ ABB รับประกันการสูญเสียพลังงานที่น้อยลงกว่าเดิมถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ในระหว่างช่วงที่มีการจ่ายไฟฟ้า
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนี้สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของโซลูชั่นระบบพลังงานทดแทน (Renewable) และโซลูชั่นการจัดเก็บพลังงานอุตสาหกรรม (Industrial energy storage) และแนวคิดการผสานรวมระบบโครงข่ายอัจฉริยะ (Edge grid)
ข้อเท็จจริงที่สำคัญ:
• ตอบโจทย์ความต้องการด้านพลังงานในอนาคต
• ทำงานได้เร็วกว่าเทคโนโลยีการป้องกันแบบเดิมถึง 100 เท่า
• แทบไม่มีโอกาสเกิดประกายไฟเลย