พระราชบัญญัติความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในประเทศไทย

พระราชบัญญัติความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ พ.ศ. 2562 ของประเทศไทย

มีผลบังคับใช้เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติและปกป้ององค์กรที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลสำคัญ (Critical Information Infrastructure - CII) ในหลากหลายภาคส่วนหลัก พระราชบัญญัตินี้ได้กำหนดกรอบการกำกับดูแล โดยระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยง การคุ้มครองข้อมูล การรายงานเหตุการณ์ และบทลงโทษในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตาม วัตถุประสงค์หลักคือการป้องกัน บรรเทา และตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของชาติ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความพร้อมทางทหาร หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน พระราชบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2562 โดยเน้นการเสริมสร้างความสามารถในการรับมือภัยไซเบอร์ของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบปฏิบัติการที่สนับสนุนภารกิจสำคัญระดับชาติ

Select Language
  • English
  • ไทย
 

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ พรบ. ในปี 2568

ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2568 เป็นต้นไป คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (NCSC) ได้บังคับใช้ประกาศย่อยที่สำคัญ 2 ฉบับภายใต้พระราชบัญญัติฯ ได้แก่:

  • มาตรฐานการกําหนดคุณลักษณะความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ให้แก่ข้อมูลหรือระบบสารสนเทศ พ.ศ. 2566
  • มาตรฐานขั้นต่ำของข้อมูลหรือระบบสารสนเทศ พ.ศ. 2566

ประกาศเหล่านี้กำหนดให้องค์กรที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลสำคัญ (CII) ต้องจัดประเภทข้อมูลและระบบสารสนเทศตามหมวดหมู่ความมั่นคงปลอดภัย และดำเนินการตามมาตรฐานการป้องกันทางไซเบอร์ขั้นต่ำตามหมวดหมู่ที่กำหนดไว้ องค์กรที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะที่สำคัญ จะต้อง

หน่วยงานใดต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้?

หน่วยงานและองค์กรที่ถูกจัดประเภทเป็นโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลสำคัญ (Critical Information Infrastructure - CII) จำเป็นต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศไทย ซึ่งรวมถึง:

  • ความมั่นคงของชาติ
  • เทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม
  • พลังงานและสาธารณูปโภค
  • สาธารณสุข
  • ธนาคารและการเงิน
  • การให้บริการสาธารณะที่มีสาระสำคัญ
  • การขนส่งและโลจิสติกส์
  • ภาคส่วนอื่น ๆ ที่ถือว่ามีความสำคัญต่อผลประโยชน์ของชาติ

แม้ว่าข้อกำหนดด้านกฎระเบียบจะมีความชัดเจน แต่แต่ละภาคส่วนของโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลสำคัญ (CII) ก็เผชิญกับความท้าทายที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การขาดความสามารถในการมองเห็นระบบทั้งหมด ความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความพร้อมในการปฏิบัติตามข้อกำหนด ไปจนถึงความไม่ชัดเจนว่ากฎระเบียบเหล่านี้มีผลต่อการดำเนินงานของตนอย่างไร 

ความท้าทายเหล่านี้อาจทำให้การดำเนินการล่าช้า และเพิ่มความเสี่ยงต่อระบบที่มีความสำคัญ ที่ ABB เราช่วยให้คุณดำเนินการตามข้อกำหนดได้อย่างมั่นใจ ด้วยการเสริมสร้างความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในปัจจุบัน และช่วยให้คุณสามารถรับมือกับความเสี่ยงเฉพาะในแต่ละอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Discover how our tailored solutions align your operations with the requirements of Thailand’s Cybersecurity Act and the latest NCSC notifications.

พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของเอบีบีในประเทศไทย

ข้อกำหนดนี้ส่งผลต่อโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลสำคัญ (CII) อย่างไร?

พระราชบัญญัติความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศไทย พร้อมด้วยประกาศคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (NCSC) ฉบับใหม่ 2 ฉบับในปี 2568 ว่าด้วยมาตรฐานขั้นต่ำของข้อมูลหรือระบบสารสนเทศ ได้ขยายขอบเขตข้อกำหนดสำหรับองค์กรโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลสำคัญ (CII) อย่างมีนัยสำคัญ โดยกำหนดให้องค์กรเหล่านี้ต้องดำเนินการตามชุดมาตรการควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่ครอบคลุม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการด้านความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และความพร้อมใช้งาน (Availability)

องค์กร CII จะต้องจัดทำเอกสารกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง แผนตอบสนองต่อเหตุการณ์ กระบวนการจัดการสินทรัพย์ การประเมินช่องโหว่ การควบคุมการเข้าถึง ขั้นตอนการเสริมความมั่นคงของระบบ โปรแกรมสร้างความตระหนักรู้ แผนการสื่อสารในภาวะวิกฤต และแนวทางการจัดการบุคคลภายนอก

ข้อกำหนดเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อให้องค์กร CII ดำเนินการเชิงรุกและเป็นระบบในการปกป้องระบบที่มีความสำคัญ เสริมสร้างความสามารถในการรับมือภัยไซเบอร์ของประเทศ และรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินงานท่ามกลางภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

แนวทางปฏิบัติสำหรับองค์กรโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลสำคัญ (CII)?

1

การจัดการสินทรัพย์

ดูแลและปรับปรุงข้อมูลสินทรัพย์ที่สนับสนุนการให้บริการของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ (CII) ให้ทันสมัยอยู่เสมอ

ABB สามารถช่วยคุณในการจัดทำขั้นตอนที่ส่งเสริมวัฒนธรรมด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และรับรองว่าการจัดทำบัญชีสินทรัพย์จะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม. เรียนรู้เพิ่มเติม
2

การประเมินความเสี่ยงและกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง

ดำเนินการประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์เป็นประจำทุกปี หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ (CII) โดยให้เป็นไปตามนโยบายการจัดการความเสี่ยงของคณะกรรมการ.

ABB ดำเนินการประเมินความเสี่ยงตามมาตรฐาน IEC 62443 สำหรับระบบการผลิตใด ๆ โดยไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับยี่ห้อของอุปกรณ์ระบบควบคุมอัตโนมัติอุตสาหกรรม (ICS).
3

การควบคุมการเข้าถึง

จำกัดการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ (CII) เฉพาะบุคลากร กิจกรรม อุปกรณ์ และอินเทอร์เฟสที่ได้รับอนุญาต ตรวจสอบการเข้าถึงผ่านอินเทอร์เฟสและการเข้าถึงเชิงตรรกะ และตรวจสอบบันทึกการเข้าถึงอย่างสม่ำเสมอ.

ABB มุ่งเน้นดำเนินการด้านความมั่นคงปลอดภัยโดยค่าเริ่มต้น (Security by Default) การป้องกันในหลายชั้น (Defense in Depth) และหลักการจำกัดสิทธิ์ให้เฉพาะที่จำเป็น (Least Privilege).
4

การเสริมความมั่นคงปลอดภัยของระบบ

กำหนดมาตรฐานการกำหนดค่าพื้นฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยสำหรับระบบปฏิบัติการ แอปพลิเคชัน และอุปกรณ์เครือข่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริการสำคัญ โดยให้สอดคล้องกับโปรไฟล์ความเสี่ยงด้านไซเบอร์ของแต่ละระบบ.

ABB มุ่งเน้นดำเนินการด้านความมั่นคงปลอดภัยโดยค่าเริ่มต้น (Security by Default) การป้องกันในหลายชั้น (Defense in Depth) และหลักการจำกัดสิทธิ์ให้เฉพาะที่จำเป็น (Least Privilege).
5

การเชื่อมต่อจากระยะไกล

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อจากระยะไกลทั้งหมดที่เข้าถึงบริการสำคัญมีมาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันและตรวจจับการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต.

ABB มุ่นเน้นการดำเนินการมาตรการเข้ารหัสข้อมูล ซึ่งรวมถึงการสื่อสารแบบเข้ารหัส แพ็กเกจซอฟต์แวร์ที่มีการลงลายเซ็น และการเข้าถึงจากระยะไกลอย่างปลอดภัย.

ABB สามารถช่วยได้อย่างไรบ้าง:

  • Secure Remote Access
6

สื่อบันทึกข้อมูลแบบถอดได้

ตรวจสอบให้มีการควบคุมอย่างเข้มงวดในการเชื่อมต่อสื่อบันทึกข้อมูลแบบถอดได้และอุปกรณ์พกพากับบริการสำคัญ.

ABB มุ่งเน้นดำเนินการด้านความมั่นคงปลอดภัยโดยค่าเริ่มต้น (Security by Default) และการป้องกันในหลายชั้น (Defense in Depth):
7

การสร้างความตระหนักด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

ให้ความสำคัญกับโปรแกรมสร้างความตระหนักด้านไซเบอร์สำหรับพนักงาน ผู้รับเหมา และผู้ให้บริการภายนอกที่มีสิทธิ์เข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ (CII).

ABB ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของทีมคุณในการรับรู้และรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์.

ABB สามารถช่วยได้อย่างไรบ้าง:

8

การตรวจจับและเฝ้าระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์

จัดตั้งกลไกและกระบวนการเพื่อ:

  1. ตรวจจับเหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริการสำคัญ
  2. จำแนกและวิเคราะห์เหตุการณ์ที่ตรวจพบ
  3. พิจารณาว่าเหตุการณ์เหล่านั้นเกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อบริการสำคัญหรือไม่
ABB ให้บริการเครื่องมือและโซลูชันเพื่อช่วยในการตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

ABB สามารถช่วยได้อย่างไรบ้าง:

9

แผนการตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

จัดทำ สื่อสาร ฝึกซ้อม ทบทวน และปรับปรุงแผนการตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพของแผน

ABB ให้บริการเครื่องมือและโซลูชันเพื่อช่วยในการตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์:

ABB สามารถช่วยได้อย่างไรบ้าง:

10

ความยืดหยุ่นด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

จัดทำแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) เพื่อให้มั่นใจว่าบริการสำคัญสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องในระหว่างเกิดเหตุการณ์ทางไซเบอร์ ตรวจสอบแผนของบุคคลภายนอกให้สอดคล้องกัน และรับรองความสอดคล้องในด้านขอบเขต ระยะเวลาที่ธุรกิจสามารถหยุดชะงักได้สูงสุด (MTPD) ระยะเวลาการกู้คืนระบบ (RTO) และระยะเวลาที่ยอมรับความสูญเสียของข้อมูลได้ (RPO).

ABB ช่วยสนับสนุนการจัดสรรทรัพยากรตามข้อตกลงในสัญญา พร้อมระยะเวลาการตอบสนองที่เหมาะสม และการจัดทำแผนการกู้คืนระบบทางเทคนิค:

ABB สามารถช่วยได้อย่างไรบ้าง:

 

ทำไมความปลอดภัยทางไซเบอร์ถึงมีความสำคัญ?

critical-infra-icon
การปกป้องโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

โรงไฟฟ้ามีความสำคัญต่อการจัดสรรพลังงานของประเทศ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ช่วยป้องกันการหยุดชะงักหรือการโจมตีที่อาจส่งผลกระทบต่อโครงข่ายพลังงาน เพื่อให้มั่นใจว่าการจ่ายไฟฟ้าจะดำเนินต่อไปสู่ธุรกิจและชุมชนได้อย่างต่อเนื่อง

preventing-damage-icon
การป้องกันความเสียหาย

การโจมตีทางไซเบอร์ต่อระบบ OT สามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุปกรณ์เชิงกายภาพของโรงงาน เช่น กังหันหรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายที่มีค่าใช้จ่ายสูง อันตรายด้านความปลอดภัย หรือภัยพิบัติทางสิ่งแวดล้อม

operational-continuation-icon
การประกันความต่อเนื่องในการดำเนินงาน

ระบบ OT มีความสำคัญต่อการตรวจสอบและควบคุมกระบวนการในโรงงาน การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้ระบบเหล่านี้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ลดการหยุดชะงัก และรักษาประสิทธิภาพของโรงงาน

compliance-with-regulations-icon
การปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมาย

การปฏิบัติตามมาตรฐาน เช่น NIST, ISO 27001, IEC 62442 และพระราชบัญญัติความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศไทย ช่วยให้โรงไฟฟ้าปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและกฎระเบียบด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อคุ้มครองโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ

isa-iec-chart-translated

การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์เพิ่มขึ้นถึง 151% ในปี 2021 โดยสร้างความเสียหายให้กับระบบ OT เฉลี่ยถึง 4.82 ล้านดอลลาร์ต่อเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม 48% ขององค์กรยังไม่ทราบว่าระบบของตนถูกเจาะหรือไม่ การศึกษาจาก Sophos พบว่า 62% ของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ภาคพลังงาน ได้รับผลกระทบจากการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ เมื่อเทียบกับ 49% ในภาคส่วนอื่น ๆ เช่น การผลิต ก่อสร้าง และ IT ดังนั้น ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์จึงไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นในการปกป้องการดำเนินงาน รักษาความต่อเนื่อง และเสริมความหยืดหยุ่นด้านธุรกิจ

ที่ ABB เราให้คำแนะนำเพื่อช่วยให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ก่อนที่จะเกิดขึ้นแนวทางความมั่นคงปลอดภัยเชิงรุกของเราช่วยให้สามารถตรวจพบช่องโหว่ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เฝ้าระวังภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ และดำเนินมาตรการป้องกันล่วงหน้า ดาวน์โหลด e-book เพื่อเรียนรู้วิธีปกป้องการดำเนินงานของคุณและเสริมความสามารถในการรับมือกับแรนซัมแวร์

แผนงานลดความเสี่ยงของ ABB

เรามีชุดโซลูชันที่ครบถ้วนเพื่อช่วยลูกค้าจัดการความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในระบบ OT และสนับสนุนการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศไทย. risk-reduction-roadmap

กรณีศึกษา

ทรัพยากร

Wondering where to start?

กำลังสงสัยว่าจะเริ่มต้นตรงไหน?

คุณอาจมีคำถามเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและผลกระทบต่อองค์กรของคุณ ABB Ability™ Cyber Security นำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุม โดยผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ของเราสามารถให้คำแนะนำเพื่อช่วยให้องค์กรของคุณปรับตัวเข้าสู่การปฏิบัติตามข้อกำหนดใหม่ได้อย่างราบรื่น

เรามาร่วมมือกันเพื่อให้องค์กรของคุณปฏิบัติตามการปรับปรุงล่าสุดของพระราชบัญญัติความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศไทย

Wondering where to start?
  • Contact us

    Submit your inquiry and we will contact you

    Contact us
Select region / language