Residual Current Devices - RCDs
อุปกรณ์ป้องกันไฟรั่วไฟดูด
คุณสมบัติ:
- มีให้เลือกทั้ง 2 โพล (ระบบไฟ 1 เฟส) และ 4 โพล (ระบบไฟ 3 เฟส)
- มีความไวที่ 30 mA เพื่อป้องกันชีวิตคนและความไวที่ 100 และ 300 mA เพื่อป้องกันไฟไหม้
- สามารถตัดวงจรเมื่อมีกระแสไฟฟ้ารั่วได้ในสภาวะปกติ รวมถึงในกรณีสายนิวตรอนหลุดหรือขาด
- ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน IEC 61008 และ มอก.2425-2560
- อุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วของ ABB ไม่มีการปรับตั้งความไวในการตัด รวมถึงไม่มีการต่อคร่อมผ่าน (By Pass) ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้งานซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน IEC 61008
ประเภทของ RCCB ที่นิยมใช้
จะตรวจจับกระแสไฟฟ้ารั่วได้เฉพาะไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่เป็นรูปคลื่นไซน์ (sinusoidal AC) เท่านั้น
การใช้งานทั่วไป: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในบ้านเรือน อาคารพาณิชย์ ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าปกติ เช่น หลอดไฟแสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ พัดลม ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่นแบบธรรมดา ฯลฯ
ข้อจำกัด: ไม่สามารถตรวจจับกระแสไฟฟ้ารั่วที่เป็นกระแสตรง (DC) หรือกระแสสลับที่มีรูปคลื่นผิดเพี้ยนไปจากไซน์ได้
ตรวจจับกระแสไฟฟ้ารั่วได้ทั้งไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่เป็นรูปคลื่นไซน์ และ ไฟฟ้ากระแสตรงแบบพัลส์ (Pulsating DC)
การใช้งานทั่วไป:
- สำหรับติดตั้งป้องกัน Home EV Charger ที่มีอุปกรณ์ตรวจจับกระแสตรงรั่ว หรือ DC fault detector มากกว่า 6mA ติดตั้งในตัว
- เหมาะสำหรับการใช้งานในที่ที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ซึ่งอาจสร้างกระแสตรงแบบพัลส์ขึ้นมาได้ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีวงจรเรียงกระแส (Rectifier) หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางชนิด (เช่น เครื่องซักผ้าบางรุ่น, เครื่องปรับอากาศบางรุ่น) รวมถึงวงจรที่มีการควบคุมความเร็วด้วยไทริสเตอร์ หรือไดโอด
ข้อดี: ให้การป้องกันที่ครอบคลุมกว่า Type AC เนื่องจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะสร้างกระแสไฟรั่วแบบ Pulsating DC
ตรวจจับกระแสไฟฟ้ารั่วได้ครอบคลุมมากที่สุด ทั้งไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่เป็นรูปคลื่นไซน์ และไฟฟ้ากระแสตรงแบบพัลส์ (Pulsating DC) รวมถึงกระแสตรงแบบเรียบ (Smooth DC) รวมถึงกระแสไฟฟ้าที่มีความถี่ผันแปร (High Frequency) และไฟฟ้ากระแสตรงที่เกิดจากวงจรเรียงกระแสแบบ 3 เฟส
การใช้งาน:
- สำหรับสำหรับติดตั้งป้องกัน Home EV Charger ที่ไม่มีอุปกรณ์ตรวจจับกระแสตรงรั่ว หรือ DC fault detector มากกว่า 6mA ติดตั้งในตัว
- เหมาะสำหรับการใช้งานที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุปกรณ์ที่อาจสร้างไฟฟ้ากระแสตรงรั่วไหลออกมา เช่น
- ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (PV Systems)
- อินเวอร์เตอร์ (Inverters) และอุปกรณ์ที่ใช้ไดรฟ์ความเร็วแปรผัน (Variable Speed Drives)
- อุปกรณ์ทางการแพทย์บางชนิด
- เครื่องจักรบางประเภทในโรงงานอุตสาหกรรมเช่น เครื่องเชื่อม
ความสำคัญ: การใช้ RCCB Type B ในงานเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากใช้ Type AC หรือ Type A อาจไม่สามารถตรวจจับไฟฟ้ากระแสตรงรั่วไหลที่อันตรายได้ ทำให้ RCCB ทำงานผิดพลาดหรือไม่ทำงานเลยเมื่อเกิดความผิดปกติ
ในการเลือกใช้ RCCB ควรพิจารณาประเภทของโหลดไฟฟ้าและลักษณะของกระแสไฟฟ้ารั่วที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับระบบที่มีความซับซ้อนและมีการแปลงกระแสไฟ อย่างเช่น EV Charger ที่ไม่มี DC Fault Detector ในตัวเครื่อง ควรเลือกใช้ Type B เพื่อการป้องกันที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพที่สุด
Where to buy
ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง